วันที่ 5 เมษายน ที่ห้องประชุมมงคลบพิตร 2 อาคาร 1 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมการป้องกันและแก้ไขการเผาพื้นที่การเกษตร โดยมีนายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางปวีณา ทองสกุลพันธ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ติดตามการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM25) พบว่าในช่วงเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้มีการลักลอบเผาพื้นที่การเกษตรในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กส่งผลกระทบกับประชาชนเป็นวงกว้าง เพื่อเป็นการติดตามการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก และบูรณาการ จึงจัดการประชุมในครั้งนี้ขึ้น นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อเป็นการประเมินสถานการณ์หลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวและมีเผานาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ทำการสำรวจพื้นที่ว่ามีจุดเสี่ยงในการเผานาบริเวณใดบ้างและจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับเกษตรกร การเผาซังข้าวทำให้ฝุ่น PM 2.5 กระจายไปทั่วรอบนอก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ หรือโรคระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นที่ขนาดเล็กมาก ทำให้สามารถซึมผ่านทางเดินหายใจได้ง่าย และเข้าสู่ระบบเลือดของมนุษย์ได้ง่ายขึ้นอย่างไรก็ตาม การเผาซังข้าวไม่ใช่วิธีการจัดการที่เหมาะสมต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน จึงเรียกร้องให้มีมาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการเผาซังข้าวและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีหรือวิธีการอื่นๆ ที่ไม่ทำให้เกิดมลพิษและเสี่ยงต่อสุขภาพอันตรายในอนาคตซึ่งการเผานาในช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยวนั้น โดยส่วนที่เหลือจากการ เกี่ยวข้าวคือ ฟางข้าว” และเกษตรกรส่วนใหญ่เลือกใช้วิธี เผาทําลาย” ซึ่งนับว่าเป็นการสร้างมลภาวะทางอากาศอย่างมาก นับเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลกระทบให้เกิดภาวะโลกร้อนจากภาคเกษตรกรรมอีกด้วย โดยทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีการสั่งการให้กับนายอำเภอร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าไปดูในพื้นที่เพื่อขอความร่วมมืองดการเผานา