* ด้วงหมัดผัก * 📢📢 เกษตรกรที่ปลูกพืชผักตระกูลกะหล่ำและผักกาด เช่น คะน้า กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บรอกโคลี กวางตุ้ง ผักกาดขาว และผักกาดหอม ขอให้เฝ้าระวังการเข้าทำลายของด้วง หมัดผักโดยตัวอ่อนด้วงหมัดผักจะกัดกิน หรือชอนไชเข้าไปกินอยู่บริเวณโคนต้น หรือราก ของผัก ทำให้พืชผักเหี่ยวเฉา และไม่เจริญเติบโต ถ้ารากถูกทำลายมาก ๆ อาจจะทำให้พืชผักตายได้ โดยตัวเต็มวัยชอบกัดผิวด้านล่างของใบทำให้ใบเป็นรูพรุน และอาจกัดกินผิวลำต้น และกลีบดอกด้วย ** วิธีลดการระบาดของด้วงหมัดผัก ** 1. ใช้วิธีเขตกรรม โดยไถตากดินไว้เป็นเวลานานพอสมควร เพื่อทำลายตัวอ่อน และดักแด้ที่อาศัยอยู่ในดิน 2. ใช้ไส้เดือนฝอย Steinernema carpocapsae อัตรา 50 ล้านตัว/น้ำ 20 ลิตร โดยพ่นหรือราดลงดินก่อนปลูกหลังการให้น้ำและพ่นทุก 7 วันหลังปลูก 3. ใช้สารฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัด เช่น ฟิโพรนิล 5% SC อัตรา 50 มล./น้ำ 20 ลิตร หรือ ไดโนทีฟูแรน 10% WP อัตรา 40 กรัม/น้ำ 20 ลิตร หรือ โทลเฟนไพแรด 16% EC อัตรา 30 มล./น้ำ 20 ลิตร หรือ โพรฟีโนฟอส 50% EC อัตรา 50 มล./น้ำ 20 ลิตร หรือ อะซีทามิพริด 20% SP อัตรา 30 กรัม/น้ำ 20 ลิตร หรือ คาร์บาริล 85% WP อัตรา 60 กรัม/น้ำ 20 ลิตร ** หนอนกระทู้ผัก ** หนอนระยะแรกเข้าทำลายเป็นกลุ่ม ในระยะต่อมาจะทำลายรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากเป็นหนอนที่มีขนาดใหญ่ สามารถกัดกินใบ ก้าน หรือเข้าทำลายในหัวกะหล่ำ การเข้าทำลายมักเกิดเป็นหย่อมๆ ตามจุดที่ตัวเต็มวัยเพศเมียวางไข่ และมักแพร่ระบาดได้รวดเร็วตลอดปี ** การป้องกันกำจัดหนอนกระทู้ผัก ** 1. ใช้วิธีเขตกรรม เช่น การไถตากดิน และการเก็บเศษซากพืชอาหาร เพื่อกำจัดดักแด้และลดแหล่งอาหารในการขยายพันธุ์ของหนอนกระทู้ผัก ใช้วิธีกลโดยเก็บกลุ่มไข่และหนอนทำลาย ซึ่งจะช่วยลดการระบาดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย 2. ใช้เชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ทูริงเยนซิส Bacillus thuringiensis (Bt) อัตรา 40-80 กรัม/น้ำ 20 ลิตร (WDG, WG, WP) หรือ 60–100 มล./น้ำ 20 ลิตร (SC) พ่นทุก 3-5 วัน เมื่อพบการระบาด หากมีการระบาดรุนแรงให้พ่นติดต่อกัน 2 ครั้ง หลังจากนั้นพ่นทุก 5 วัน จนกระทั่งหนอนลดปริมาณการระบาด 3. ใช้ชีวภัณฑ์เอ็นพีวีหนอนกระทู้ผัก อัตรา 40-50 มล./น้ำ 20 ลิตร พ่นทุก 7-10 วัน ควรพ่นเมื่อหนอนมีขนาดเล็กจะให้ผลในการควบคุมได้รวดเร็ว กรณีหนอนระบาดรุนแรงพ่นอัตรา 50 มล./น้ำ 20 ลิตร ติดต่อกัน 2 ครั้ง ทุก 4 วัน 4. หากมีความจำเป็นต้องใช้สารเคมี ให้ใช้สารฆ่าแมลงที่มuประสิทธิภาพตามคำแนะนำ เช่น คลอร์ฟีนาเพอร์ 10% SC อัตรา 30 มล./น้ำ 20 ลิตร หรือ อินดอกซาคาร์บ 15% EC อัตรา 30 มล./น้ำ 20 ลิตร หรือ อีมาเมกตินเบนโซเอต 1.92% EC อัตรา 20 มล./น้ำ 20 ลิตร หรือ ฟลูเบนไดอะไมด์ 20% WG อัตรา 6 กรัม/น้ำ 20 ลิตร หรือ คลอแรนทรานิลิโพรล 5.17% SC อัตรา 30 มล./น้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบการระบาด ที่มา : สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร ขอรับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ : สำนักงานเกษตรอำเภอหรือสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้านท่าน ที่มา #สำนักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เผยแพร่โดย : กฤตยา ส.ปชส.อย.