ข่าวจาก สนง.ประชาสัมพันธ์
ปัจจุบันประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์(complete Aged Society)แบบแล้วในปี 2565 และคาดการณ์ว่า ในอีก 15 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะกลายเป็น สังคมสูงอายุระดับสุดยอด (super aged society )จะมีประชากรผู้สูงอายุสูงถึง 28% ของประชากรทั้งประเทศ การตั้งรับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึงจึงเป็นเรื่องสำคัญเพื่อรับมือกับสังคมสูงอายุในอนาคต โดยสามารถทำได้ดังนี้คือ
23 พฤษภาคม 2566
1. ด้านสุขภาพ
ผู้สูงอายุจำเป็นต้องลดปัจจัยที่ทำให้ก่อโรคในอนาคตตั้งแต่วันนี้ เริ่มต้นด้วยอาหารการกินที่ต้องครบ 5 หมู่ ทานอาหารให้ตรงเวลา รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ลดการบริโภคแป้ง น้ำตาล ไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกาย รวมไปถึงแอลกอฮอล์ และบุหรี่ ที่เป็นสาเหตุของโรคอันตรายต่างๆ มากมาย นอกจากจะต้องระมัดระวังโรคยอดฮิตอย่างเบาหวาน มะเร็ง หัวใจ แล้ว อย่าลืมว่ายังมีโรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ ให้ต้องกังวลอีกด้วย
2. ด้านสังคม
ในเมื่อผู้สูงอายุหลุดวงโคจรออกมาจากเพื่อนที่ทำงานแล้ว การสร้างสังคมที่เปรียบเสมือนชมรมผู้สูงอายุ จึงช่วยเยียวยาจิตใจของผู้สูงอายุได้ ซึ่งจะสื่อออกมาถึงสุขภาพทั้งร่างกาย และจิตใจ เป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ พึ่งพาตนเองได้ โดยการเข้าร่วมชมรมผู้สูงอายุประจำท้องถิ่น หรือโรงเรียนผู้สูงอายุ เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของผู้สูงอายุ และส่งเสริมให้ผู้สูงอายุสร้างสรรค์ประโยชน์แก่ชุมชนและสังคม
3. ด้านเศรษฐกิจ
การออมเงิน คือ เป็นสิ่งช่วยให้การใช้ชีวิตในช่วงวัยสูงอายุ มีความราบรื่น และสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยควรมีเงินเก็บสำหรับช่วงเวลาสุดท้าย นอกจากการเก็บเงินแล้ว คือกองทุนที่ลงทุนในระยะยาวและปลอดภัย เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง จึงควรลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่ผันผวนมาก
อาชีพสำหรับผู้สูงอายุ อาจเป็นงานเบา ๆ เช่น ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ หรืองานอื่น ๆ ที่ไม่ต้องพึ่งแรงกายมาก เพื่อเป็นอีกช่องทางสร้างรายได้ในวัยสูงอายุ
#สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
(ข่าวสารจาก facebook)